สนาม: Baidu รู้
บทนำ: เชื่อได้ว่าการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช) ต่อจากนี้คงต้องระวังตัวกันมากขึ้นอีกหลายเท่า หลังเกิดกรณีมีภาพ สนชนั่งหลับในห้องประชุมระหว่างการพิจารณาร่าง พรบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ทั้งที่เป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็นำ ครมเต็มคณะมาประชุมชี้แจง แต่ก็ยังมี สนชนั่งหลับในห้องประชุมจนเกิดเป็นภาพปรากฏต่อสาธารณะ จนทำให้ พลอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกมาระบุว่า ใครที่หลับ คราวหน้าก็เป็นอะไรไม่ได้อีกต่อไปอยู่แล้ว ผมดูไว้หมด หลับก็ไม่ต้องเป็นอะไร ไปนอนที่บ้าน แต่วันนี้อยู่ให้มันจบไปก่อน ท่าทีดังกล่าวของ บิ๊กตู่-หัวหน้า คสช คงทำเอา สนชทั้งหลายสะดุ้งไม่น้อย เพราะต้องไม่ลืมว่า สนชทั้งหมดเป็นชื่อที่ พลอประยุทธ์พิจารณาและนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ที่สำคัญก็เป็นที่รู้กันดีว่า จากบทเฉพาะกาลใน รธนฉบับปัจจุบันที่ให้ คสชมีอำนาจในการพิจารณาคัดสรรรายชื่อ แล้วหัวหน้า คสชนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อแต่งตั้งให้เป็น สมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่เกิน 250 คน มีวาระการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 5 ปี โดยก็รู้กันว่า สนชชุดปัจจุบันจำนวนมากต่างก็หวังลึกๆ ว่าจะได้ไปต่อ ได้กลับมานั่งในห้องประชุมรัฐสภาอีกครั้งในปี 2562 แต่เปลี่ยนจากบัตรประจำตัวที่ติดหน้าอกตอนนี้คือ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็น สมาชิกวุฒิสภา ทั้งสายพลเรือน-ข้าราชการประจำ-อดีตข้าราชการประจำ ต่างก็ลุ้นในใจลึกๆ ว่าจะมีชื่อติดโผกลับเข้ามาเป็น สวอีกรอบ แม้จะเหลือเวลาอีกนานหลายเดือนกว่าจะเข้าสู่ช่วง ลุ้นคัดตัว ก็ตาม แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าตอนนี้ ร่าง พรบการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยจนเสร็จสิ้นแล้วว่าไม่มีปัญหาข้อกฎหมายขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ ตามที่มี สนชเข้าชื่อให้ศาลรธนตีความ และมีข่าวว่าประธาน สนชเตรียมส่งร่าง พรบการได้มาซึ่ง สวไปให้นายกฯ เตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว ดังนั้นหากดูตามช่วงปฏิทินเวลา นับจากนี้ก็เหลือเวลาอีกไม่เกิน 4 เดือน กระบวนการเตรียมเลือก ว่าที่ สวชุดใหม่ ตามขั้นตอนต่างๆ ก็จะเกิดขึ้น หลังกฎหมายการได้มาซึ่ง สวประกาศใช้ สนชที่ต้องการไปต่อ นอกจากจะต้องแสดงฝีมือและผลงานให้ คสชเห็นแล้ว ยังต้องไม่ให้เกิดอาการ ฟอร์มตก จนทำให้ ชื่อหลุด จาก โผว่าที่ สว 250 คน ไม่อย่างนั้นโอกาสกลับมาก็ลำบาก เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกว่าที่ สวชุดใหม่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก แม้จะให้ดำเนินไปตามขั้นตอนต่างๆ เช่น การมีคณะกรรมการสรรหา สว จำนวนไม่เกิน 12 คน มาทำหน้าที่สรรหาบุคคลที่สมควรเป็น สว แต่ก็ตั้งโดย คสช และอาจมีคนในเครือข่าย คสชไปเป็นกรรมการชุดนี้เกินครึ่ง อีกทั้งในขั้นตอนการคัดกรองรายชื่อในรอบสุดท้ายก็เป็นอำนาจการพิจารณาของ คสช-บิ๊กตู่ แต่กระบวนการก่อนที่ชื่อจะออกไปจากกรรมการสรรหาและ กกตเพื่อส่งไปให้ คสชพิจารณาก็มีความเข้มข้นไม่น้อย แม้จะเป็นที่รู้กันดีว่า ว่าที่ สวชุดใหม่ ก็คือชื่อที่ คสชวางตัวไว้ให้เข้ามาเป็น สวยาว 5 ปี แบบยกสภาก็ตาม เพราะไม่ใช่แค่ สนชเท่านั้นที่รอลุ้นขอมีชื่อติดกลับมาเป็น สว แต่ยังมีอีกหลายกลุ่ม เช่นพวกอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท), อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช) ทั้งหลาย ที่ไม่ได้เข้าสู่ถนนการเมืองการเลือกตั้ง แต่ต้องการลุ้นเข้ามาเป็น สวเช่นเดียวกับพวกที่ทำงานช่วย คสชในช่วงที่ผ่านมาทั้งแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผย เช่น พวกกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 คณะ, กรรมการเขียนแผนยุทธศาสตร์หลายคณะที่บิ๊กตู่ตั้งก่อนหน้านี้ ก็คงมีหลายคนหวังว่าเมื่อไปช่วยงาน คสชแล้ว ตัวเองก็ควรมีลุ้นเข้ามาเป็น สวชุดใหม่บ้าง อีกทั้งก็ยังมีพวกทหาร-ตำรวจ-ข้าราชการพลเรือนที่เติบโตขึ้นมาในช่วง 2-3 ปีหลัง และเตรียมจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหลักๆ ในกองทัพและหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่กุมแผงอำนาจรัฐในช่วง 4-5 ปีต่อจากนี้ ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ได้มีชื่อเป็น สนชในเวลานี้ แต่เป็นกลุ่มคนที่ คสชวางตัวไว้ให้อยู่ในตำแหน่งยาวๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลัง คสชลงจากอำนาจก็เชื่อได้ว่ากลุ่มนี้น่าจะได้ลุ้นเข้าไปเป็น สวจำนวนมาก โดยเฉพาะ สายท็อปบูต ที่คาดได้ว่าน่าจะตบเท้าเข้าไปมีบทบาทการเมืองใน สภาสูง ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี หลัง คสชลงจากอำนาจแน่นอน เพื่อจะได้คอยเป็น ฐานการเมือง-ป้อมปราการให้ คสช จะได้มีอำนาจไว้ต่อรองกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ได้ หลังบ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ ไม่ใช่ลงจากอำนาจแบบขาลอย จนเคยมีนักวิเคราะห์การเมือง-นักการเมืองบางพรรควิเคราะห์ไว้ว่า สภาสูงชุดใหม่คาดว่า คสชจะดันท็อปบูตให้เข้าไปเป็น สวจำนวนมากจน เขียวพรึ่ด ทั้งสภาสูง ไม่ใช่แค่ เขียวธรรมดา ด้วยเหตุนี้ สนชทั้งหลาย นอกจากต้องสร้างผลงานให้เข้าตา คสช-บิ๊กตู่แล้ว ยังต้องระวัง ไม่ให้การ์ดตก-ฟอร์มหลุด เกิดข่าวในทำนองไม่ดีกับตัวเอง จนหมดลุ้นได้เข้ามาเป็น สว เพราะหากหลุดโผก็ได้พักยาวไปเลยหลายปี...
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-02-28